พัฒนาการด้านสังคม
(1) ลักษณะของสังคมไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
สังคมไทยในสมัยนี้ยังคงเป็นไปตามแบบแผนของสมัยอยุธยา
ซึ่งอาจแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ
- ระดับชนชั้นปกครอง ได้แก่
พระมหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์
ขุนนาง และข้าราชการระดับต่าง ๆ
- ระดับชนชั้นที่ถูกปกครอง ได้แก่ ไพร่ และทาส
สภาพสังคมสมัยนี้ยังเป็นไปตามศักดินาอยู่ โดยที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจสูงสุด ตามความเชื่อว่ากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพตามแนวคิดของศาสนาพราหมณ์ มีการซื้อขายทาส แต่มีนายเป็นจำนวนมากที่เลี้ยงดูทาสเหมือนญาติ ส่วนประชาชนทั่วไปมีการโยกย้ายถิ่นที่อยู่ไม่ค่อยแน่นอน เพราะเป็นสภาพหลังศึกสงคราม อีกทั้งมีคนต่างด้าวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเข้ามาพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
รัชกาลที่ 1 ทรงแก้ปัญหาความสับสนของบ้านเมืองดังกล่าวให้อยู่ในความสงบ เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยการนำกฎหมายในสมัยอยุธยามารวบรวมสอบใหม่ให้ถูกต้อง เรียกชื่อใหม่ว่า กฎหมายตราสามดวง ซึ่งประทับตราด้วยราชสีห์ คชสีห์ และบัวแก้ว ใช้เป็นหลักในการปกครองมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 4
ในสมัยรัชกาลที่ 4 อังกฤษได้ส่งทูตมาเจรจาทำสัญญากับไทย คือ เซอร์ จอห์น เบาว์ริง เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 เรียกว่า สนธิสัญญาเบาว์ริง ซึ่งทำให้ฝ่ายไทยต้องเสียเปรียบฝ่ายอังกฤษอยู่หลายประการ จึงมีผลให้ไทยต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียมประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว
สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปสังคมให้ทันสมัยตามแบบตะวันตก สืบทอดนโยบาบการปรับปรุงและปฏิรูปตามสมัยรัชกาลที่ 4 ที่ได้ทรงวางรากบานไว้ในสมัยรัชกาลที่ 4 ที่ได้ทรงวางรากฐานไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการปฏิรูปหลายด้าน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้
1) การเลิกทาสและการเลิกระบบไพร่ โดยทรงจัดการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2) การเปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม ให้เป็นที่ยอมรับของสังคมตะวันตก เช่น การให้ปฏิทินตามแบบยุโรป (ใช้วันจันทร์ - อาทิตย์ แทนวันข้างขึ้น ข้างแรม ใช้เดือนมกราคม - ธันวาคม แทนเดือนอ้าย - เดือนสิบสอง) การแต่งกายตามวัฒนธรรมตะวันตก และยกเลิกการคลานเวลาเข้าเฝ้า เป็นต้น
3) ปฏิรูปการศึกษา การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศ รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักในความข้อนี้ จึงทรงมุ่งพัฒนาการศึกษาของไทย สรุปได้ดังนี้
(1) ตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในวัง พ.ศ. 2414
(2) ตั้งโรงเรียนนายทหารมหาดเล็กที่พระตำหนักสวนกุหลาบ
(3) ตั้งโรงเรียนสำหรับราษฏรขึ้นครั้งแรกที่วัดมหรรพาราม พ.ศ. 2427
(4) ขยายการศึกษาออกสู่หัวเมืองอย่างจริงจังใน พ.ศ. 2441 โดยใช้วัดเป็นสถานศึกษา และมีพระสงฆ์เป็นครูผู้สอน
การปฏิรูปการศึกษานี้สืบเนื่องมาถึงรัชกาลที่ 6 เช่น มีการประกาศพระราชบัญญัติประถมศึกษาปี พ.ศ. 2464 ซึ่งเป็นการบังคับให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น